วิธีเลือกยากำจัดเพลี้ยให้เหมาะกับพืชแต่ละชนิด

กำจัดเพลี้ย

เลือกยากำจัดเพลี้ยอย่างไรให้เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิด

ปัจจุบันเกษตรกรหลายๆคนคงกำลังมีปัญหาเพลี้ยแมลงศัตรูพืชขนาดเล็กที่สร้างความเสียหายให้กับผลผลิตทางการเกษตรมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง หรือ เพลี้ยหอย ล้วนแล้วแต่มีความสามารถในการดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นพืช ซึ่งจะส่งผลให้พืชเหี่ยวเฉา หยุดการเจริญเติบโต หรือแม้แต่ตายได้ โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรมที่ต้องอาศัยผลผลิตอย่างต่อเนื่อง การเลือกใช้ยากำจัดเพลี้ยให้เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาผู้อ่านไปรู้จักกับประเภทของเพลี้ย ชนิดของพืชหลักที่ได้รับผลกระทบ และ วิธีการเลือกใช้สารเคมี หรือ ชีวภัณฑ์อย่างเหมาะสม โดยเน้นทั้งประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนั้นเอง

 

ทำความรู้จักเพลี้ยคืออะไร? เข้าใจศัตรูตัวเล็กก่อนเลือกยากำจัดเพลี้ย

"เพลี้ย" คือแมลงขนาดเล็กที่จัดอยู่ในกลุ่มแมลงดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืช มีด้วยกันหลายชนิด เช่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เพลี้ยหอย เพลี้ยไฟ และ เพลี้ยกระโดด ซึ่งแต่ละชนิดมักมีพฤติกรรม และ วงจรชีวิตที่แตกต่างกันไป โดยเพลี้ยมักอาศัยอยู่ตามใต้ใบ กิ่งอ่อน หรือ ส่วนที่มีน้ำเลี้ยงมาก เมื่อพวกมันดูดกินน้ำเลี้ยง จะทำให้พืชเจริญเติบโตช้า ใบหงิกงอ เหี่ยวแห้ง หรือ ถึงขั้นตายได้ในที่สุด อีกทั้งเพลี้ยบางชนิดยังเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสสู่พืช ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย

เพลี้ยจัดว่าเป็นศัตรูพืชที่สร้างความเสียหายต่อพืชเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง เช่น ข้าว อ้อย มะม่วง ทุเรียน ผักต่าง ๆ และ ไม้ดอกไม้ประดับ จึงไม่ควรมองข้ามในการจัดการ โดยเฉพาะการเลือกใช้ยากำจัดเพลี้ยให้ถูกชนิด และ เหมาะสมกับพืช จะช่วยลดความเสียหาย และ ลดโอกาสการดื้อยาในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเข้าใจลักษณะเฉพาะของเพลี้ยแต่ละประเภทก่อนจะเริ่มกำจัด จึงเป็น กุญแจสำคัญ ที่ช่วยให้การเลือกวิธีกำจัด หรือ ใช้สารเคมีที่เกิดผลดีสูงสุด พร้อมลดผลกระทบต่อพืช และ สิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดอีกด้วย

 

วิเคราะห์พืชแต่ละชนิดกับปัญหาในการเลือกยากำจัดเพลี้ย

  1. ข้าว (Rice)
    สำหรับพืชตระกูลข้าวนั้นจะมีเพลี้ยที่พบบ่อยอยู่ 2 ชนิดเช่นเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และ เพลี้ยจักจั่นเขียว

    โดยปัญหาที่เกิดบ่อยจะส่งผลให้เพลี้ยดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นข้าว ทำให้ต้นข้าวแคระแกร็น ใบแห้ง ต้นล้มและ ไม่ออกรวง อีกทั้งเพลี้ยบางชนิดยังเป็นพาหะนำโรคไวรัส เช่น โรคใบขีดสีน้ำตาล เป็นต้น ซึ่งควรเลือกใช้สารเคมีเฉพาะกลุ่มที่ไม่ดื้อยาใช้ KEMFAC-Cypermethrin 10% EC หรือ KEMFAC-Imidacloprid 10% SL เพื่อควบคุมเพลี้ยที่ดูดกินน้ำเลี้ยงโดยเฉพาะ

  2. มันสำปะหลัง (Cassava)
    เพลี้ยที่พบบ่อยในไร่มันสำปะหลังมักจะเป็น เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง (Phenacoccus manihoti) ซึ่งเพลี้ยจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากยอด ทำให้ใบเหลือง หงิกงอ ยอดแห้ง ส่งผลให้หัวมันเล็กลง และ ผลผลิตลดลง ใช้ KEMFAC-Abamectin 1.8% EC ซึ่งมีประสิทธิภาพกำจัดเพลี้ยแป้งอย่างเฉียบพลัน และ พ่นซ้ำตามคำแนะนำทุก 7-10 วันเมื่อตรวจพบการระบาด


  3. พริก (Chili)
    พืชตระกูลพริกนั้นมักจะพบเพลี้ย เช่น เพลี้ยอ่อน (Aphids), เพลี้ยไฟ (Thrips) ซึ่งเพลี้ยจะทำการดูดน้ำเลี้ยงจากใบ และ ยอดอ่อน ทำให้ใบม้วน ขาดการเจริญเติบโต และ เป็นพาหะของเชื้อไวรัสเช่นโรคใบหงิก ควรใช้สารเคมีอย่างเป็นระบบเพื่อกำจัดเพลี้ย ให้ใช้ KEMFAC-Acetamiprid 20% SP สำหรับเพลี้ยอ่อนกรณีมีเพลี้ยไฟร่วมด้วย ควรใช้ KEMFAC-Abamectin 1.8% EC สลับหมุนเวียน โดยจะเหมาะสำหรับการพ่นช่วงระบาดต้นฤดูฝนนั้นเอง


  4. ทุเรียน (Durian)
    เพลี้ยที่พบบ่อยในทุเรียนนั้นจะเป็น เพลี้ยแป้ง, เพลี้ยหอย ซึ่งเพลี้ยจะเกาะบริเวณลำต้น กิ่ง ใบ และ ผล และ ดูดกินน้ำเลี้ยงจนต้นอ่อนแอ ใบหลุดร่วง และ ทำให้ผลไม่สมบูรณ์ จึงควรเลือกใช้สารเคมี หรือ ชีวภัณฑ์กำจัดเพลี้ยโดยไม่ทำลายแมลงที่เป็นประโยชน์ เช่น ใช้ KEMFAC-Imidacloprid 10% SL โดยฉีดพ่นแบบดูดซึมที่ใบและกิ่ง อาจพ่นร่วมกับ KEMFAC-Sticker (สารจับใบ) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะ


  5. ไม้ดอกไม้ประดับ (เช่น กุหลาบ, ดาวเรือง)
    เพลี้ยที่พบบ่อยในพืชชนิดไม้ดอกนั้นมักพบ เพลี้ยอ่อน, เพลี้ยแป้ง, เพลี้ยไฟ ที่จะก่อให้เกิดปัญหาใบ และดอกมีรูพรุน ดอกไม้บาน หรือ บานผิดรูป ใบร่วง และ ทำให้ต้นแคระแกร็น ควรควบคุมด้วยสารเคมีอ่อนๆ ที่ปลอดภัยต่อผู้ปลูก โดยใช้ KEMFAC-Abamectin 1.8% EC หรือ KEMFAC-Cypermethrin 10% EC พ่นเฉพาะจุด และ พ่นเป็นประจำทุก 5-7 วันในฤดูระบาด พร้อมเว้นระยะก่อนเก็บเกี่ยวอย่างเหมาะสม

 

จากที่กล่าวมาจะพบว่าการกำจัดเพลี้ยไม่ได้มีสูตรตายตัว ซึ่งการเลือกใช้ยากำจัดเพลี้ยนั้นต้องคำนึงถึงประเภทของเพลี้ย พืชที่ปลูก สภาพแวดล้อม และ วิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง โดยการผสมผสานระหว่างวิธีเคมี และ ชีวภาพจะช่วยให้การจัดการเพลี้ยมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและ ความเสี่ยงต่อผู้บริโภค

ดังนั้นหากสนใจในยากำจัดเพลี้ยเราขอแนะนำ บริษัท เคมแฟค จำกัด ซึ่งมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์เคมีเกษตร และ ยากำจัดแมลงศัตรูพืช อาทิ ยาป้องกัน หรือ กำจัดเชื้อโรคต่างๆในพืช อีกทั้งยังมี ยาฆ่าแมลง ยากำจัดเพลี้ย ยาฆ่าหนอน ยาคุมหญ้าในนาข้าว ยาฆ่าหญ้า และ ยาฆ่าหญ้าในนาข้าว ที่มีคุณภาพที่ผ่านมาตรฐาน ISO 9001 และ ISO/IEC 17025 รายแรกของไทย จึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์เคมีของเราสามารถป้องกันกำจัดแมลง โรคพืช วัชพืช ได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน


โรงงาน บริษัท เคมแฟค จำกัด
990 นิคมอุตสาหกรรมบางปู หมู่ 2
ต.บางปูใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10280
โทร. 02-709-2597-8 แฟกซ์: 02-709-6784

สำนักงาน บริษัท เคมแฟค จำกัด
68 ซ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 34
แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. 10250
โทร. 02-7267498-99 แฟกซ์: 02-709-6784 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้