รู้ทันโรคแคงเกอร์ในพืชตระกูลส้ม: อาการ สังเกต และแนวทางป้องกันเบื้องต้น

ภาพแสดงอาการของโรคแคงเกอร์บนใบพืชตระกูลส้ม

 ทำความเข้าใจวิธีป้องกันโรคแคงเกอร์ในพืชตระกูลส้มอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยเราจะพบว่าสำหรับเกษตรกรชาวไร่นั้นโรคแคงเกอร์ (Citrus Canker) ถือเป็นหนึ่งในโรคสำคัญที่สร้างความเสียหายรุนแรงให้กับพืชตระกูลส้มอย่างมาก เช่น ส้มเขียวหวาน มะนาว ส้มโอ และ ส้มสายพันธุ์อื่น ๆ โดยโรคนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ผลผลิตลดลงอย่างมาก แต่ยังส่งผลต่อคุณภาพของผลผลิต และความสามารถในการส่งออกของประเทศอีกด้วย ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับอาการของโรคแคงเกอร์ตั้งแต่เบื้องต้น จนถึงระดับที่อาการรุนแรง พร้อมวิธีสังเกต วิเคราะห์ และ แนวทางการป้องกันเพื่อให้คุณสามารถควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคแคงเกอร์คืออะไร?

ก่อนอื่นควรเข้าใจก่อนว่าโรคแคงเกอร์ในพืชตระกูลส้ม นั้นเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ Xanthomonas citri subsp. citri ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่มีชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ชื้น อุณหภูมิอุ่น โดยเฉพาะในฤดูฝน หรือ พื้นที่ที่มีการให้น้ำแบบพ่นฝอย โดยมีลักษณะเด่นของโรคนี้คือ เกิดแผลเป็นจุดนูนสีน้ำตาลบนใบ ผล และ กิ่ง ซึ่งจะขยายวง และ มีขอบเหลืองอย่างชัดเจน เมื่อเกิดโรคแล้ว จะส่งผลให้ผลผลิตด้อยคุณภาพ ใบร่วงก่อนเวลา และ เป็นประตูให้โรคอื่น ๆ เข้าทำลายได้ง่าย

ซึ่งเราจะพบว่าในพืชตระกูลส้มนั้นมักพบโรคแคงเกอร์จำนวนมาก แม้โรคนี้จะพบได้ในพืชตระกูลส้มหลายชนิด แต่มีบางชนิดที่มีความอ่อนแอเป็นพิเศษ เช่น ส้มเขียวหวาน (Citrus reticulata) , มะนาว (Citrus aurantiifolia) , ส้มโอ (Citrus maxima) , ส้มซ่า และ ส้มจุก หรือ ส้มเนื้อหนา แต่ก็มีส้มพันธุ์บางชนิดที่ทนต่อโรค เช่น ส้มโชกุน หรือ พันธุ์ส้มที่มีเปลือกหนา ซึ่งอาจพบอาการได้น้อยกว่า หรือ ไม่พบเลย

 

อาการของโรคแคงเกอร์ในแต่ละส่วนของพืชตระกูลส้ม

  1. อาการบนใบของโรคแคงเกอร์
    โดยเราจะพบว่าจุดเริ่มต้นของโรคแคงเกอร์จะมีเป็นจุดน้ำตาลเล็ก ๆ นูนเล็กน้อยบนใบโดยมีขอบสีเหลืองรอบ ๆ แผล ซึ่งแผลจะนูนออกทั้งสองด้านของใบเมื่อแผลขยายจะรวมกันเป็นปื้น ทำให้ใบร่วงก่อนวัย หากติดเชื้อรุนแรง
  2. อาการบนผล
    โรคแคงเกอร์ จะมีการแสดงอาการบนผลเช่นกัน โดยจะมีจุดกลมนูน สีน้ำตาล-ดำ ซึ่งบริเวณรอยแผลจะมีรอยเหลืองเหมือนใบ ทำให้ผิวผลไม่เรียบ ผลไม่น่ารับประทาน และ แผลอาจกลายเป็นรอยแผลเป็นเมื่อโรคหยุดลุกลาม
  3. อาการบนกิ่ง
    อาการบนกิ่งของโรคแคงเกอร์จะมีแผลลึก หรือ นูนขึ้นบนกิ่ง โดยมีสีเข้ม มักมีรอยแตกลึก ทำให้กิ่งแห้งหรือ ตายได้เมื่อเชื้อเข้าทำลายจำนวนมาก

 

วิธีการสังเกตอาการของโรคแคงเกอร์เบื้องต้น

ก่อนอื่นต้องเข้าใจการสังเกตุโรคแคงเกอร์ตั้งแต่ระยะแรก ซึ่งก็คือ กุญแจสำคัญในการควบคุมโรคแคงเกอร์อย่างได้ผลโดยสามารถสังเกตุอาการได้ไม่ยากหาเข้าใจ ได้ดังนี้

  1. การใช้สายตา
    ให้ทำการสำรวจใบอ่อนที่เพิ่งแตกยอดใหม่ ๆ ซึ่งมักติดเชื้อได้ง่าย อีกทั้งตรวจดูบริเวณใต้ใบซึ่งเชื้อชอบสะสมอยู่ และ สำรวจผลที่อยู่ชิดกัน หรือ ติดกันแน่น ๆ บนพุ่มว่าผิดปกติไหม

  2. ใช้แว่นขยาย
    การใช้แว่นขยายนั้นจะช่วยให้เห็นแผลจุดนูนชัดเจนยิ่งขึ้น โดยใช้ดูว่าขอบแผลมีสีเหลือง หรือ ไม่ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรคแคงเกอร์

  3. สำรวจในช่วงเช้า
    การสำรวจต้นในช่วงเช้านั้นให้สังเกตุน้ำค้างที่หลงเหลืออยู่จะทำให้ช่วยให้เห็นแผลได้ชัด ซึ่งใบจะยังไม่แห้ง จึงเห็นจุดต่าง ๆ ชัดกว่ากลางวันอย่างมาก

การแพร่ระบาดของโรคแคงเกอร์

โรคแคงเกอร์นั้นสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วผ่านหลายช่องทาง เช่น การที่ฝนตกกระเซ็นจะพาเชื้อจากใบหนึ่งไปยังอีกใบหนึ่งได้ง่าย , ลมแรงจะทำให้เชื้อกระจายได้ไกลหลายเมตร , การตัดแต่งกิ่ง โดยหากใช้กรรไกรตัดต้นที่เป็นโรค แล้วไม่ฆ่าเชื้อ อาจแพร่เชื้อไปต้นอื่นๆได้ และ ในแมลงปากดูด เช่น เพลี้ยไก่แจ้ จะช่วยนำเชื้อจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้เช่นกัน

 

แนวทางการป้องกัน และ ควบคุมโรคแคงเกอร์

  1. ใช้วิธีการปลูกที่ถูกต้อง
    ในการป้องกันโรคแคงเกอร์ควรปลูกพืชให้เว้นระยะปลูกให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้ดี โดยหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีน้ำขัง หรือ อากาศชื้นตลอดปี และ เลือกใช้ต้นพันธุ์ที่ปลอดโรคจากแหล่งที่เชื่อถือได้

  2. การตัดแต่งกิ่ง
    ควรตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง เพื่อให้แสงแดดส่องถึงได้ เพื่อลดความชื้นลง และ หากพบแผลต่างๆของโรคแคงเกอร์ ให้ตัดทิ้งทันที และ เผา หรือ ฝังเลย

  3. ใช้สารเคมีอย่างเหมาะสม
    การพ่นสารคอปเปอร์ออกไซด์ (Copper Oxychloride) หรือ คอปเปอร์ไฮดรอกไซด์ ทุกๆ 7-10 วันในช่วงฝนตกจะช่วยป้องกันโรคแคงเกอร์ได้ โดยหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกลุ่มเดียวกันซ้ำ ๆ เพื่อลดการดื้อยา

  4. ควบคุมแมลงพาหะ
    ควรมีการพ่นสารเคมีเพื่อกำจัดเพลี้ยไก่แจ้ หรือ เพลี้ยจักจั่น อยู่เป็นประจำซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคแคงเกอร์ หรือ เลือกใช้กับดักเหนียวเพื่อจับแมลงเพื่อควบคุมปริมาณ

จากที่กล่าวมาจะเห็นว่าโรคแคงเกอร์ในพืชตระกูลส้มนั้นอาจดูเหมือนเป็นปัญหาเล็กๆในระยะแรก แต่หากปล่อยทิ้งไว้ อาจส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อทั้งสวน และ ระบบเศรษฐกิจ การรู้จักอาการเบื้องต้นและ วิธีสังเกตจึงสำคัญมากๆ โดยควรเน้นการป้องกันให้มากกว่าการรักษาเนื่องจากจะเป็นการป้องกันที่ยั่งยืน แต่หากพบโรคแล้วการกำจัดเองก็เป็นสิ่งสำคัญ

ดังนั้นเราจึงขอแนะนำ ผลิตภัณฑ์จากทาง บริษัท เคมแฟค จำกัด ซึ่งมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์เคมีเกษตร และ ยากำจัดแมลงศัตรูพืช อาทิ ยาป้องกัน หรือ กำจัดเชื้อโรคต่างๆในพืช อีกทั้งยังมี ยาฆ่าแมลง ยากำจัดเพลี้ย ยาฆ่าหนอน ยาคุมหญ้าในนาข้าว ยาฆ่าหญ้า และ ยาฆ่าหญ้าในนาข้าว ที่มีคุณภาพที่ผ่านมาตรฐาน ISO 9001 และ ISO/IEC 17025 รายแรกของไทย จึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์เคมีของเราสามารถป้องกันกำจัดแมลง โรคพืช วัชพืช ได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน

 

โรงงาน บริษัท เคมแฟค จำกัด
990 นิคมอุตสาหกรรมบางปู หมู่ 2
ต.บางปูใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10280
โทร. 02-709-2597-8 แฟกซ์: 02-709-6784

สำนักงาน บริษัท เคมแฟค จำกัด
68 ซ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 34
แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. 10250
โทร. 02-7267498-99 แฟกซ์: 02-709-6784 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้