เราจะพบว่าการปลูกข้าวในประเทศไทย โดยเฉพาะในระบบนาน้ำฝน และ นาชลประทานนั้น มักต้องเผชิญกับปัญหาวัชพืชที่เข้ามาแย่งอาหาร แสงแดด และ พื้นที่ในการเจริญเติบโตของต้นข้าวอย่างมาก ซึ่งส่งผลให้ผลผลิตลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยหนึ่งในแนวทางสำคัญที่ชาวนาใช้เพื่อควบคุมวัชพืชตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลนั้นก็คือ การใช้ยาคุมหญ้าในนาข้าว แต่การจะใช้ยาคุมหญ้าให้ได้ผลนั้น ไม่ใช่แค่เลือกยาที่เหมาะสมเท่านั้น หากแต่ ช่วงเวลา ในการใช้ก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจถึงเวลา และ วิธีการใช้ยาคุมหญ้าในนาข้าวอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียโดยไม่จำเป็นได้
หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้จักกับยาคุมหญ้าในนาข้าว (Pre-emergence herbicide) นั้นคือสารเคมีกำจัดวัชพืชที่ใช้ก่อนที่เมล็ดวัชพืชจะงอก หรือ ในช่วงที่เพิ่งงอกใหม่ ๆ เพื่อเป็นการยับยั้งการเจริญเติบโตของเมล็ดวัชพืชในดิน โดยมักใช้หลังจากปลูกข้าวไม่นาน เพื่อเป็นการควบคุมไม่ให้วัชพืชเริ่มต้นแข่งขันกับต้นข้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลไกการออกฤทธิ์ของยาคุมหญ้าในนาข้าว นั้นจะเข้าไปคุมหญ้าที่เกาะอยู่ในชั้นผิวดิน โดยเมื่อเมล็ดหญ้าเริ่มงอก ราก หรือ ยอดอ่อนจะสัมผัสสารเคมีทันที โดยจะทำหน้าที่ให้เกิดการยับยั้งการสังเคราะห์โปรตีน หรือ แบ่งเซลล์ของวัชพืช ทำให้ต้นอ่อนของวัชพืชตายก่อนโผล่ขึ้นผิวดินนั้นเอง
เราจะพบว่าหลักการทั่วไปในการใช้ยาคุมหญ้าในนาข้าว นั้นควรใช้ ทันที หลังปลูก หรือ หว่านข้าว (ทั้งแบบหว่านน้ำต้ม และ แบบนาหว่านแห้ง) ไปแล้ว ซึ่งมีเวลาที่ควรใช้อย่างช้าที่สุด ภายใน 3 วันหลังหว่านเมล็ด หรือ ก่อนที่หญ้าจะเริ่มงอก อีกทั้งควรใช้ก่อนน้ำขังจะนิ่ง เพื่อให้สารเคมีออกฤทธิ์คุมชั้นผิวดินอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ในการใช้ยาคุมหญ้าในนาข้าว ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน โดยการใช้ยานั้นห้ามใช้เกินปริมาณที่กำหนด ซึ่งอาจเป็นพิษต่อต้นข้าวได้ อีกทั้งห้ามฉีดยาในช่วงที่มีลมแรง หรือ ฝนตกทันทีหลังใช้เนื่องจากจะทำให้ยานั้นถูกชะล้างออกไป ไม่ควรใช้ยาคุมหญ้าบ่อยเกินไปในแปลงเดียวกัน เพราะหญ้าอาจดื้อยาได้ ให้ ใช้สลับกลุ่มยาในแต่ละฤดูเพื่อลดโอกาสดื้อยา และ ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันร่างกายทุกครั้งเมื่อต้องผสม หรือ พ่นยา นั้นเอง
จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นว่าการใช้ยาคุมหญ้าในนาข้าวนั้นเป็นเทคนิคที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปลูกข้าวได้อย่างแท้จริง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ การใช้ในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด นั่นคือ ทันทีหลังปลูกข้าว หรือ ภายใน 3 วันหลังจากหว่านเมล็ด และ จะต้องมีปัจจัยอื่น ๆร่วมด้วย เช่น ความชื้นของดิน การขังน้ำ และ การเตรียมแปลงเข้ามาสนับสนุน เพื่อให้ยาคุมหญ้าออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด โดยการตัดสินใจใช้สารเคมีในนาควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรู้ และ การวางแผนล่วงหน้า ที่ชัดเจน หากชาวนาใช้ยาคุมหญ้าในนาข้าวอย่างเหมาะสม จะช่วยลดปริมาณการใช้สารเคมีในระยะยาว ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และ ช่วยส่งเสริมความยั่งยืนในการทำนาไทยได้อย่างแท้จริง
ดังนั้นหากกำลังมองหายาคุมหญ้าในนาข้าวที่มีมาตรฐาน และ ได้รับการยอมรับในวงกว้างนั้นเราขอแนะนำ บริษัท เคมแฟค จำกัด ซึ่งมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์เคมีเกษตร และ ยากำจัดแมลงศัตรูพืช อาทิ ยาป้องกัน หรือ กำจัดเชื้อโรคต่างๆในพืช อีกทั้งยังมี ยาฆ่าแมลง ยากำจัดเพลี้ย ยาฆ่าหนอน ยาคุมหญ้าในนาข้าว ยาฆ่าหญ้า และ ยาฆ่าหญ้าในนาข้าว ที่มีคุณภาพที่ผ่านมาตรฐาน ISO 9001 และ ISO/IEC 17025 รายแรกของไทย จึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์เคมีของเราสามารถป้องกันกำจัดแมลง โรคพืช วัชพืช ได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน
โรงงาน บริษัท เคมแฟค จำกัด
990 นิคมอุตสาหกรรมบางปู หมู่ 2
ต.บางปูใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10280
โทร. 02-709-2597-8 แฟกซ์: 02-709-6784
สำนักงาน บริษัท เคมแฟค จำกัด
68 ซ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 34
แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. 10250
โทร. 02-7267498-99 แฟกซ์: 02-709-6784