เราจะพบว่าเพลี้ยไฟ (Thrips) เป็นศัตรูพืชขนาดเล็กที่สร้างความเสียหายอย่างมากต่อพืชเศรษฐกิจหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นพืชผัก ผลไม้ ดอกไม้ หรือ ไม้ประดับ โดยการดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบอ่อน ดอก และผลอ่อน ดอก และ ผล ส่งผลให้เกิดความเสียหายรุนแรง เช่น ใบหงิกงอ ผลผลิตเสียรูป และ ยังสามารถเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสสู่พืชได้อีกด้วย ซึ่งหนึ่งในปัญหาที่เกษตรกรหลายคนกังวลที่สุดคือ การดื้อยา ของเพลี้ยไฟ เนื่องจากแม้จะใช้สารเคมีป้องกันกำจัดหลายชนิด แต่เพลี้ยไฟบางพื้นที่ก็ยังคงแพร่ระบาดหนัก ซึ่งเป็นผลจากพฤติกรรม และ ชีววิทยาที่ซับซ้อนของเพลี้ยไฟ รวมถึงรูปแบบการใช้สารเคมีที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นบทความนี้จะชวนคุณทำความเข้าใจว่า เพลี้ยไฟดื้อยาได้อย่างไร? สาเหตุสำคัญคืออะไร? และมีแนวทางแก้ไขหรือจัดการอย่างยั่งยืนแบบใดที่สามารถนำไปใช้ได้จริง
เพื่อเข้าใจว่าทำไมเพลี้ยไฟถึงดื้อยาได้ง่าย เราต้องเริ่มจากรู้จักตัวตนของมันก่อน เพลี้ยไฟ หรือ Thrips ในวงศัตรูพืช มีมากกว่า 6,000 ชนิดทั่วโลก แต่ชนิดที่เป็นปัญหาหลักในไทยคือ Scirtothrips dorsalis (เพลี้ยไฟชายขอบ) และ Frankliniella occidentalis (เพลี้ยไฟตะวันตก) ซึ่งบุกรุกเข้ามาจากต่างประเทศเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ลักษณะทางกายภาพของเพลี้ยไฟ คือ เพลี้ยไฟมีขนาดเล็กมาก เพียง 12 มิลลิเมตร ลำตัวมีสี เหลือง น้ำตาล หรือดำ ลักษณะเด่นคือ มีปีกคู่แคบสองคู่ และ ปากแบบดูดเจาะ ซึ่งใช้เจาะเนื้อเยื่อพืชเพื่อดูดกินน้ำเลี้ยงโดยที่เพลี้ยไฟเพศเมียสามารถวางไข่ได้ 2580 ฟองต่อตัว และมักฝังไข่ไว้ภายในเนื้อเยื่อพืช ทำให้การกำจัดทำได้ยากยิ่งขึ้น
เพลี้ยไฟชอบพืชที่มีน้ำเลี้ยงอุดมสมบูรณ์ เช่น พืชตระกูลน้ำมัน หรือ ผักใบ แต่ในไทย มันแพร่ในพืชเศรษฐกิจอย่างทุเรียน และ มะม่วง โดยดูดน้ำเลี้ยงจากยอดอ่อน และ ดอก ทำให้ดอกโรย และ ผลผิดรูป นอกจากนี้ เพลี้ยไฟยังขับถ่ายน้ำหวาน (honeydew) ที่ดึงดูดมด และ เชื้อราเขม่า (sooty mold) ส่งผลให้พืชเสียหายมากยิ่งขึ้น การที่เพลี้ยไฟมีหลายรุ่นต่อปี (polyvoltine) ทำให้ประชากรมีการกลายพันธุ์บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นพื้นฐานของการพัฒนาการดื้อยา
ในประเทศไทย เพลี้ยไฟมักระบาดหนักในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม (ฤดูร้อน) และ ตุลาคม-ธันวาคม (ฤดูฝน) เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย จากรายงานของกรมส่งเสริมการเกษตร ปี 2025 พบว่าพื้นที่เพลี้ยไฟระบาดครอบคลุมกว่า 500,000 ไร่ โดยเฉพาะในภาคอีสานที่ปลูกพริก และ มะเขือเทศ การเข้าใจวงจรชีวิตนี้ช่วยให้เกษตรกรสามารถกำหนดเวลาการควบคุมได้ถูกต้อง เช่น การฉีดยาในระยะตัวอ่อนที่อ่อนแอที่สุด แต่หากใช้ยาฆ่าแมลงผิดวิธี จะเร่งให้เกิดการดื้อยาเร็วขึ้นได้
การดื้อยาของเพลี้ยไฟเกิดจากหลายๆปัจจัยทั้งทางชีววิทยา และ การจัดการของเกษตรกร เราสามารถสรุปเหตุผลหลัก ๆ ได้ดังนี้
การที่เพลี้ยไฟดื้อยา ไม่เพียงทำให้การควบคุมศัตรูพืชยากขึ้น แต่ยังส่งผลกระทบในหลายด้าน ได้แก่
แม้ปัญหาการดื้อยาของเพลี้ยไฟจะซับซ้อน แต่ก็สามารถจัดการได้หากใช้วิธีที่ถูกต้อง และ ยั่งยืน โดยแนวทางที่แนะนำมีดังนี้
จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่า เพลี้ยไฟดื้อยา อาจเกิดจากชีววิทยาที่ซับซ้อนของแมลง และการใช้สารเคมีที่ไม่เหมาะสม ผลกระทบจึงไม่เพียงแต่ทำให้ควบคุมศัตรูพืชได้ยาก แต่ยังส่งผลต่อ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสุขภาพของผู้บริโภคแนวทางการแก้ไขที่ดีที่สุด คือ การใช้ การจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน (IPM) ควบคู่กับการสลับใช้สารเคมี การใช้ชีวภัณฑ์ และการปรับระบบการปลูก เพื่อควบคุมเพลี้ยไฟอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน หากเกษตรกรต้องการใช้สารเคมีที่ช่วยกำจัดเพลี้ยไฟอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัท เคมแฟค จำกัด มีผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ผ่านมาตรฐาน ISO 9001 และ ISO/IEC 17025 ครอบคลุมทั้ง
ผลิตภัณฑ์ของเราช่วยป้องกันและกำจัดแมลง โรคพืช และวัชพืชได้อย่างมั่นใจ มีประสิทธิ
โรงงาน บริษัท เคมแฟค จำกัด
990 นิคมอุตสาหกรรมบางปู หมู่ 2
ต.บางปูใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10280
โทร. 02-709-2597-8 แฟกซ์: 02-709-6784
สำนักงาน บริษัท เคมแฟค จำกัด
68 ซ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 34
แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. 10250
โทร. 02-7267498-99 แฟกซ์: 02-709-6784